ในวันนี้ (30 เมษายน 2563) ศูนย์บริหารสถานการณ์ โควิด-19 หรือ ศบค. ได้แถลงการณ์ถึงมาตรการผ่อนปรน ประเภทกิจการและกิจกรรม หลังสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ในประเทศไทย มีแนวโน้มที่ดีขึ้น มีรายละเอียดเบื้องต้นดังนี้
ต่อ พรก. ฉุกเฉิน ออกไปถึง 31 พฤษภาคม 63
โดยประกาศวันนี้ แบ่งเนื้อหาเป็น 2 ส่วน ส่วนแรกคือการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน ซึ่งขยายเวลาให้มีผลต่อไปถึงวันที่ 31 พฤษภาคม 2563 ให้ปฏิบัติตามเดิม ซึ่งมีประเด็นสำคัญคือ
- กำหนดช่วงเวลาห้ามออกนอกเคหสถาน 22.00น. – 4.00น. (เคอฟิว) ต่อไป
- จำกัดการเดินทางเข้าออกราชอาณาจักรทุกช่องทาง
- ผู้เดินทางมาจากต่างประเทศ ต้องถูกกักตัวเป็นเวลา 14 วัน
มาตรการผ่อนปรนธุรกิจ เฟสแรก
ส่วนที่สอง ซึ่งเป็นประเด็นสำคัญในแถลงการณ์วันนี้ ศบค. ได้ชี้แจงการกำหนดมาตรการผ่อนปรน โดยใช้วิธีกำหนดมาตรฐานกลางของแต่ละกิจการและกิจกรรม เพื่อให้ผู้ว่าราชการของแต่ละจังหวัด กำหนดรายละเอียดเพิ่มเติม โดยจังหวัดสามารถเพิ่มความเข้มข้นของมาตรการได้ แต่ลดลงไม่ได้
6 กลุ่มธุรกิจที่ได้รับการผ่อนปรน มีดังต่อไปนี้
- ตลาด – ตลาดสด ตลาดนัด ตลาดน้ำ ตลาดชุมชน ถนนคนเดิน แผงลอย
- ร้านจำหน่ายอาหาร – ร้านอาหารทั่วไป (ไม่เกิน2คูหา) เครื่องดื่ม ขนมหวาน ไอศกรีม ซึ่งอยู่นอกห้างฯ ร้านอาหารริมทาง รถเข็น หาบเร่
- กิจการค้าปลีก-ส่ง – ซุปเปอร์มาร์เก็ต ร้านสะดวกซื้อบริเวณพื้นที่นั่ง-ยืนรับประทาน รถเร่หรือรถวิ่งขายสินค้าอุปโภคบริโภค ร้านค้าปลีกขนามย่อม ร้านค้าปลีกชุมชน ร้านขายปลีกธุรกิจสื่อสารโทรคมนาคม
- กีฬาสันทนาการ – กิจกรรมในสวนสาธารณะ ได้แก่ เดิน หรือ รำไทเก๊ก สนามกีฬากลางแจ้งที่เป็นการออกกำลังกาย โดยไม่ได้เล่นเป็นทีมและไม่มีการแข่งขัน ได้แก่ เทนนิส ยิงปืน ยิงธนู จักรยาน กอล์ฟและสนามซ้อม
- ร้านตัดผมเสริมสวย – เฉพาะ ตัด สระ ไดร์ผม
- อื่นๆ – ร้านตัดขนสัตว์ รับเลี้ยงรับฝากสัตว์
คำถามคำตอบเพิ่มเติม
- มาตรการห้ามจำหน่ายสุรา ยังคงมาตรการต่อไป จนกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงคำสั่ง
- ร้านอาหารที่ให้เปิด มีขนาดไม่เกิน 2 คูหา และมีรายละเอียดที่ต้องปฏิบัติตาม เช่นห้ามนั่งทานเป็นกลุ่ม โดยจะมีคู่มือเผยแพร่ออกมา
- ร้านชาบู สุกี้ สามารถเปิดได้ แต่ต้องแยกหม้อรับประทาน
- ร้านค้าในตลาดสามารถขายได้ทุกประเภท แต่ให้มีการเว้นระยะห่าง มีการควบคุมดูแล
ทั้งนี้มาตรการผ่อนปรนนี้ มีผลตั้งแต่วันอาทิตย์ที่ 3 พฤษภาคม 2563 เป็นต้นไป มาตรการนี้เป็นเฟสที่ 1 จากทั้งหมด 4 เฟส โดยจะเพิ่มการผ่อนปรนเฟสที่ 2 หากสถานการณ์ยังดีขึ้นในระยะเวลา 14 วัน
(ข้อมูลอัพเดต ณ วันที่ 30 เมษายน เวลา 12.40น.)